top of page
Search

ต้นแบบโรงแรมที่สร้างความยั่งยืนให้กับโลก



ตอนนี้ประเทศไทยประสบกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 อีกครั้ง โดยหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ถูกผลักดันอยู่ตอนนี้ ก็คือการทดลองเปิดประเทศในวงจำกัดอย่างบนเกาะภูเก็ต หรือก็คือภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งเป็นการเปิดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว เข้ามาได้โดยไม่ต้องกักตัว เพื่อฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวในภูเก็ต และเพื่อเป็นพื้นที่ทดลองนโยบายการเปิดประเทศในอนาคต โดยภูเก็ตเป็นหมุดหมายในการท่องเที่ยวที่สำคัญระดับโลก จะเห็นได้จากการจัดอันดับของสำนักข่าว U.S. News & World Report ให้ภูเก็ตติดอันดับ 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในโลก (World’s Best Places to Visit) รวมถึงสำนักข่าวทั่วโลกก็ให้ความสนใจต่อข่าวการเปิดภูเก็ตอย่างมาก ทั้งนี้นอกจากภูเก็ตจะมีธรรมชาติที่สวยงาม และสถานที่ท่องเที่ยวอันหลากหลายแล้ว ภูเก็ตยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมที่คำนึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม และเป็นต้นแบบของการออกแบบโรงแรมเพื่อโลกที่ดีกว่าอีกด้วย

.

Rosewood Phuket ตั้งอยู่บริเวณหาดไตรตรัง ในจังหวัดภูเก็ต เป็นโรงแรมที่ให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ และสร้างความยั่งยืน ตั้งแต่แนวคิด การออกแบบ ไปจนถึงการดำเนินธุรกิจ โดยโรงแรมนี้เป็นโรงแรมแรก ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้รับการรับรองด้านการออกแบบอย่างยั่งยืน (Leadership in Energy and Environmental Design: LEED) ในระดับสูง (Gold Certification) ซึ่ง Rosewood Phuket ดำเนินการในหลายด้าน เพื่อลดผลกระทบและปกป้องสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่แนวคิดการใช้น้ำอย่างยั่งยืน ทำให้น้ำใกล้เคียง 100% ที่ใช้ในโรงแรมถูกรวบรวมจากน้ำฝน ด้วยระบบฝายเก็บน้ำ ระบบลำเลียงน้ำธรรมชาติ (Bioswales) และระบบกรองน้ำด้วยคาร์บอนเพื่อสร้างน้ำดื่ม ถัดมาคือแนวคิดประหยัดพลังงาน โดยออกแบบให้พื้นที่ในอาคารกว่า 78% สามารถรับแสงจากธรรมชาติได้เพื่อลดการใช้แสงเทียม และพื้นที่หลังคากว่า 30% เป็นสวนเพื่อช่วยให้อาคารเย็นขึ้น เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างเป็นแบบลดการใช้พลังงาน และโรงแรมนี้ก็ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ผ่านแผงโซลาร์เซลล์ที่ใหญ่ที่สุดในภูเก็ต ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดนี้ทำให้แต่ละปี โรงแรมนี้ช่วยลดพลังงานไฟฟ้าไปได้ถึง 1,670,000 กิโลวัตต์ชั่วโมง ลดการใช้น้ำไปได้กว่า 7,000 ลูกบาศก์เมตร และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ไปได้ถึง 223 ตัน

.

แม้ปัจจุบันการดำเนินธุรกิจให้มีรายได้ ประคับประคองให้อยู่ และดูแลผู้ร่วมธุรกิจจะเป็นเป้าหมายสำคัญในช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้ แต่การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้ธุรกิจเพียงอยู่ได้ แต่หากต้องการให้อยู่ได้อย่างยั่งยืน ในช่วงเวลาหลังจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ธุรกิจอาจต้องคำนึงถึงการแก้ไขปัญหาในระยะยาวไปพร้อมกันด้วย อย่างปัญหาสิ่งแวดล้อมซึ่งนับวันก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ หากธุรกิจสามารถมองวิกฤตให้เป็นโอกาส และพัฒนาสิ่งที่เป็นอยู่ ให้สร้างคุณค่าที่ดีกว่าให้แก่โลกได้มากขึ้น ในช่วงที่มีนักท่องเที่ยวน้อย หรือกำลังปิดชั่วคราวนี้ ก็จะได้เปรียบธุรกิจรายอื่น ๆ ซึ่งหากหยิบเอาการดำเนินงานของ Rosewood Phuket มาปรับประยุกต์ใช้พัฒนาธุรกิจในแบบที่เหมาะสมกับตนเองได้ ก็จะสามารถสร้างสถานะที่ดีกว่าทั้งกับธุรกิจและกับโลก ซึ่งทำให้ธุรกิจสามารถสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างโลกที่ดีกว่าได้อย่างแท้จริง

.

Analyzed by BRANDigest

.

203 views

Comments


bottom of page